นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy)
บริษัท นิวคอนเซพท์ โปรดัคท์ จำกัด
บทนำ
บริษัทนิวคอนเซพท์โปรดัคท์ จำกัด (ต่อไปในนโยบายนี้เรียกว่า “บริษัทฯ”) ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลอื่นอันเกี่ยวกับบุคคลทุกคนที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ไม่ว่าจะเป็น คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ลูกค้า พนักงาน ผู้บริหาร หรือผู้ปฏิบัติหน้าที่ อาทิ
ก. ลูกค้าในปัจจุบันหรือที่เป็นลูกค้าเป้าหมายที่เป็นบุคคลธรรมดา หรือบุคลากร ผู้แทนนิติบุคคล ผู้แทน ตัวแทน ที่กระทำในนามนิติบุคคลซึ่งเป็นลูกค้านิติบุคคลของบริษัท
ข. บุคคลที่เป็นคู่ค้า หรือพันธมิตรทางธุรกิจ หรือที่เป็นเป้าหมายที่เป็นบุคคลธรรมดา หรือบุคลากร ผู้แทนนิติบุคคล ผู้แทน ตัวแทน ที่กระทำในนามนิติบุคคลซึ่งเป็นคู้ค้าหรือพันธมิตรที่เป็นนิติบุคคลของบริษัท บุคคลที่มาติดต่อ บุคคลภายนอกที่เข้ามาในบริเวณรับผิดชอบของบริษัทฯ เพื่อความปลอดภัย
ค. บุคคลใดๆ ที่บริษัทฯ จำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อกิจกรรมทางสังคม หรือกิจกรรมอื่นใดที่ไม่ได้แสวงหากำไรทางธุรกิจ
ง. บุคคล ซึ่งเป็นพนักงาน ผู้สมัครงาน สมาชิกในครอบครัว และบุคคลที่ถูกอ้างอิง
(รวมเรียกว่า “
ข้อมูล”) เพื่อให้ท่านสามารถเชื่อมั่นได้ว่า บริษัทฯ มีความโปร่งใสและความรับผิดชอบในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (“
นโยบาย”) นี้จึงได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงแก่ท่านถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผย (รวมเรียกว่า “
ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งดำเนินการโดย บริษัทฯ รวมถึงเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องผู้ดำเนินการแทนหรือในนามของ บริษัทฯ โดยมีเนื้อหาสาระดังต่อไปนี้
หลักการในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
1. หลักการพื้นฐาน
การเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล จะดำเนินการตามหลักการพื้นฐาน คือ เป็นการประมวลโดยชอบด้วยกฎหมาย เท่าที่จำเป็น และจำกัด ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยจะมีการตรวจสอบความถูกต้อง การเก็บรักษาและมาตรการรักษาความปลอดภัย ตามนโยบาย แนวปฏิบัติ หรือข้อกำหนดที่บริษัทฯ กำหนด หรือ บทบัญญัติของกฎหมายเท่านั้น
ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จะเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่แสดงอัตลักษณ์ เช่น บัตรประชาชน ภูมิลำเนา คู่สมรส บุตร ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน รวมถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น ศาสนา ข้อมูลชีวภาพ เช่น หมู่โลหิต โรคประจำตัว ประวัติการศึกษา ประวัติสุขภาพ หรือประวัติอาชญากรรม สถิติการใช้ผลิตภัณฑ์ สถานที่ส่งผลิตภัณฑ์ เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการบริหารงานบุคคล การวิเคราะห์และนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการ หรือใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ของบุคคลต่างๆ ตามที่ระบุในข้อ 1 ข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่สาม ข้อมูลระบบ เช่น IP address, MAC address, Cookie ID. ข้อมูลการใช้เว็บ รวมถึงข้อมูลและเทคโนโลยีอื่นของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ในการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต และ ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล อนุญาตให้สอบถาม หรือสืบค้น หรือเป็นข้อมูลจากแหล่งอื่นที่เชื่อถือได้ เช่น บริษัทนายจ้างเดิม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมบังคับคดี หรือข้อมูลสาธารณะอื่นที่เชื่อถือได้
2. แนวทางในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อนหรือในขณะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่จะได้รับการยกเว้นตามกฎหมาย ดังนี้
- เป็นไปตามสัญญา: เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาที่มีความผูกพันระหว่างกันหรือการเข้าทำสัญญา
- เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย: เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัททั้งในฐานะผู้ประมวลข้อมูลส่วนบุคคลหรือฐานะอื่นตามกฎหมายอื่น
- เป็นไปเพื่อประโยชน์อันชอบธรรม: เพื่อประโยชน์โดยด้วยกฎหมายของบริษัท หรือบริษัทในเครือ
- เป็นไปเพื่อประโยชน์สำคัญต่อชีวิต: เพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย สุขภาพ หรือความปลอดภัย
โดยทั่วไปแล้ว บริษัทฯ จะไม่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งละเอียดอ่อน เช่นข้อมูลชีวภาพ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ชีวภาพความพิกาศ ข้อมูลพันธุกรรม พฤติกรรมทางเพศ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา หรือเป็นข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบบุคคล เว้นแต่มีความจำเป็นหรือไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในการที่จะต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลละเอียดอ่อนเช่นว่านั้น และหากมีเหตุดังกล่าว บริษัทฯ จะทำการขอความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้งก่อน หรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลละเอียดอ่อนนั้น เว้นแต่จะมีข้อยกเว้นตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้อำนาจในการประมวลผลโดยไม่ต้องขอความยินยอม
ในกรณีที่ท่านไม่ประสงค์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวมีความจำเป็นหรือเกี่ยวข้องกับการเข้าทำสัญญา การเข้ารับบริการ หรือดำเนินการเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทฯ ย่อมไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวข้างต้นให้แก่ท่านได้ เนื่องจากไม่มีข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอที่จะสามารถนำมาประมวลผลได้อย่างเหมาะสม
3. วิธีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯอาจเก็บรวบรวมข้อมูลซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้ให้ความยินยอม การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากตัวท่านโดยตรง เช่น การสืบค้นข้อมูลส่วนบุคคลของท่านผ่านระบบเว็บไซต์หรือช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ (LinkedIn, Facebook, Instagram เป็นต้น) การเก็บรวบรวมจากบุคคลอ้างอิงที่ท่านได้แจ้งไว้กับบริษัทฯ หรือจากแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่น บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบโดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ ไม่เกินสามสิบ (30) วันนับแต่วันที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น พร้อมทั้งขอความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจากท่าน เว้นแต่เป็นกรณีการจัดเก็บข้อมูลจากแหล่งอื่นภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ซึ่งได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมหรือแจ้งรายละเอียดต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
4. ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น ข้อมูลในใบสมัครงาน จะทำลายภายในหนึ่งปี หากพนักงานไม่ได้รับการคัดเลือก เพื่อการปฏิบัติหน้าที่และการให้บริการภายใต้วัตถุประสงค์ที่บริษัทฯได้กำหนดขึ้น โดยระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีความแตกต่างกันตามประเภทของกิจกรรมและบริการ โดยมีระยะเวลาในการจัดเก็บ ดังต่อไปนี้
- กรณีที่มีกฎหมายกำหนดระยะเวลาในการจัดเก็บไว้โดยเฉพาะ บริษัทฯ จะทำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามกรอบระยะเวลาดังกล่าว
- กรณีที่กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลของท่านตามความจำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และคำนึงถึงแนวปฏิบัติของบริษัทฯ รวมถึงภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลเช่นว่านั้น
- ในกรณีการดำเนินการอย่างใด ๆ เพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย บริษัทฯ อาจทำการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในระยะเวลายาวนานกว่ากรณีทั่วไป
- ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาการเก็บรักษาหรือหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ จะพิจารณาลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีการที่เหมาะสม
- ในบางกรณี บริษัทฯ อาจจำเป็นต้องจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกินระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น หากมีเหตุที่บริษัทฯ ได้รับแจ้งหรือเชื่อโดยสุจริตได้ว่าอาจมีการกระทำละเมิดข้อตกลงการใช้บริการของบริษัทฯ มีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย หรือเกิดข้อพิพาท และจำเป็นต้องมีการสืบสวน สอบสวน ตลอดจนการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยบริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นจนกว่ากระบวนการนั้นจะเสร็จสิ้น หรือตามที่ระยะเวลาที่กฎหมายในเรื่องนั้นกำหนด
5. สถานที่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลและการกำหนดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ได้กำหนดแนวทางและวิธีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้อย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดจากการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล การเข้าถึง การลบ ทำลาย ส่งต่อ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือจากบริษัทฯ เฉพาะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตามที่บริษัทฯ หรือหรือ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้นที่จะมีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลหรือเข้าถึงสถานที่ในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้
กรณีที่บริษัทฯ ได้ว่าจ้างหน่วยงานหรือบุคคลภายนอกให้ดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์และในนามของบริษัทฯ บริษัทฯ จะกำหนดให้หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกดังกล่าว เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงป้องกันมิให้นำข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย เพื่อการอื่นใดที่ไม่เป็นไปตามขอบเขตการว่าจ้าง หรือขัดต่อกฎหมาย
6. การเปิดเผยและการโอนข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้วัตถุประสงค์ข้อ 2 บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้แก่ฝ่ายต่าง ๆ ของบริษัท เช่น ฝ่ายบริหารงานบุคคล ฝ่ายบัญชี ฝ่ายการเงิน และฝ่ายจัดซื้อ โดยอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกภายใต้ความยินยอมของท่าน เว้นแต่การเปิดเผยหรือโอนดังกล่าวจะได้กระทำภายใต้กรอบที่กฎหมายให้อำนาจไว้ให้สามารถกระทำได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทฯ อาจถูกเปิดเผยหรือโอนระหว่างบริษัทฯ (ตามรายชื่อที่ระบุให้ข้อ 1 ของประกาศฯ ฉบับนี้) รวมถึงการเปิดเผยหรือโอนให้แก่
- บริษัทในเครือ บริษัทในกลุ่ม ของบริษัทฯ
- บริษัทใหม่ที่เกิดจากการเข้าควบรวมกิจการหรือกิจการร่วมค้า หรือบริษัทที่รับโอนกิจการจากบริษัทฯ
- คู่สัญญา คู่ค้า ผู้ให้บริการ หรือพันธมิตรทางธุรกิจ ของบริษัทฯ อาทิ ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริษัทจัดหางาน เป็นต้น
- หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น กรมสรรพากร สำนักงานประกันสังคม เป็นต้น
- ที่ปรึกษาวิชาชีพของบริษัทฯ
- หน่วยงาน หรือ องค์กรอื่นใดที่เกี่ยวข้องหรืออาจเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ฯ
7. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
- สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to withdraw consent)
ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้แก่บริษัทฯ สำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อใดก็ได้ ทั้งนี้ การใช้สิทธิเพิกถอนความยินยอมอาจส่งผลต่อการดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดที่อาจเกิดขึ้นภายหลังจากการเพิกถอนความยินยอมได้ อย่างไรก็ดี การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งท่านได้ให้ความยินยอมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ในกรณีที่มีสัญญาหรือปฎิบัติตามกฎหมาย เจ้าของข้อมูลไม่มีสิทธิเพิกถอน
- สิทธิในการเข้าถึงข้อมูล (Right to access)
ท่านมีสิทธิในการเข้าถึง การรับสำเนา หรือ การให้บริษัทฯ ทำการเปิดเผยการได้มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งอยู่ในความควบคุมของบริษัทฯ ให้เปิดเผยแหล่งที่มาของข้อมูล ซึ่งเจ้าของข้อมูลไม่ได้ให้ความยินยอม
- สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to restriction)
ท่านสามารถแจ้งให้ทางบริษัทฯ ดำเนินการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลดังกล่าวอยู่ในระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคล หรือ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบการใช้สิทธิคัดค้านของท่าน หรือ กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต้องถูกลบหรือทำลายเนื่องจากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือ กรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ได้กำหนดไว้ แต่ท่านเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาเพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม การใช้สิทธิ หรือ การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
- สิทธิในการขอให้โอนข้อมูลส่วนบุคคล (Right to data portability)
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความควบคุมของบริษัทฯ โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านร้องขอจะต้องเป็นข้อมูลที่สามารถอ่าน หรือ ใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ซึ่งมีลักษณะการทำงานโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ ท่านสามารถร้องขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านข้างต้นไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น หรือ อาจร้องขอให้บริษัทฯ รับโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากผู้ควบคุมส่วนบุคคลอื่น ทั้งนี้ การดำเนินการเช่นว่านั้นจะต้องสามารถกระทำได้ในทางเทคนิค
- สิทธิในการคัดค้านข้อมูลส่วนบุคคล (Right to object)
ท่านสามารถคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความควบคุมของบริษัทฯ ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นข้อมูลที่ประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง หรือ เป็นกรณีที่บริษัทฯ อาศัยฐานภารกิจของรัฐ ฐานประโยชน์อันชอบธรรม หรือฐานจดหมายเหตุ/ วิจัย/ สถิติ
- สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to be forgotten)
หากท่านเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกจัดเก็บโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือ หมดความจำเป็นในการประมวลผลตามที่ได้กำหนดตามวัตถุประสงค์ หรือ ท่านได้เพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลและบริษัทฯ ไม่มีอำนาจในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอีกต่อไป หรือ ท่านได้ทำการคัดค้านการประมวลผลในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกจัดเก็บเพื่อทำการตลาดแบบตรงหรืออาศัยฐานประโยชน์อันชอบธรรมหรือภารกิจของรัฐ ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัทฯ ทำการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้
- สิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล (Right to rectify)
ในกรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่สมบูรณ์ หรืออาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัทฯ ดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความควบคุมของเราได้
- สิทธิในการร้องเรียน (Right to lodge a complaint)
หากท่านเห็นว่าบริษัทฯ ได้ทำการละเมิดกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ทันที
ทั้งนี้ หากท่านประสงค์จะใช้สิทธิดังกล่าว หรือมีข้อสงสัยหรือข้อกังวลเกี่ยวกับแนวปฏิบัติของบริษัทฯ ท่านสามารถติดต่อบริษัทฯ ได้ อย่างไรก็ดี ในบางกรณีบริษัทฯ อาจปฏิเสธการใช้สิทธิข้างต้นได้ หากมีเหตุตามกฎหมาย หรือเป็นการดำเนินการใดๆ เพื่อวัตถุประสงค์หรือเป็นกรณีที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือเป็นกรณีที่อาจส่งผลกระทบและก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิหรือเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น
8. การเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้
บริษัทฯ สงวนสิทธิในการปรับปรุงแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงประกาศฯ ฉบับนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดย เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจติดตามหรือตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงผ่านเว็บไซต์ของบริษัท
9. ข้อมูลการติดต่อของบริษัทฯ
หากท่านมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น ข้อติชม การใช้สิทธิตามกฎหมาย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดในประกาศฯ นี้ ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) ของบริษัทฯ ได้ ดังต่อไปนี้
ชื่อบริษัท และที่อยู่ติดต่อ
บริษัท นิวคอนเซพท์โปรดัคท์ จำกัด
เลขที่ 156 ซอยลาดพร้าว 107 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น
เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
ช่องทางการติดต่อ : center@ncp.co.th
Call Center : 02-731-1029 ในระหว่างเวลาทำการ 8.30 – 17.30 น.
ประกาศ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2566